เจลีค การตลาด ชนาธิป

เจลีค การตลาด ชนาธิป โมเดลความสำเร็จ ที่ ญี่ปุ่น เกาหลี ขายอย่างชาญฉลาด

เจลีค การตลาด ชนาธิป สิ่งที่ซ่อนเร้น ที่เราคิดว่าเรารู้ แต่ อาจจะไม่หมด

เจลีค การตลาด ชนาธิป ใช่ตอนนี้พวกเรารู้แหละว่า ชนาธิป เป็นส่วนหนึ่ง ของการตลาด ที่ทาง ญี่ปุ่น ต้องการ ขยับขยาย ฐานแฟนบอล หรือ เรียกว่าลูกค้าก็ได้ ด้วย การซื้อนักเตะไทย ไปเล่นที่ เจลีค

หากมองกันแบบตรงไปตรงมา เต็มที่ ก็น่าจะมีแค่การ ท่องเที่ยวที่เสริมขึ้นมา หรือ แม้แต่สินค้าที่ใช้ ชนาธิป เป็นสื่อกลาง เพื่อทำการตลาด

แต่สำหรับผม ผมวิเคราะห์ว่า มันมีมากกว่านั้น มากกว่าการตลาด มากกว่าคำว่า Win Win Situation

ข้อสังเกตุอย่างหนึ่งก็คือ ณ วันที่ ฮิเดโตชิ นากาตะ ไปอิตาลี ก็มีกลิ่นอายของการ ลด แลก แจก แถมเพื่อทำให้นักเตะตัวเองไปสู่โอกาสที่คุ้มค่า แบบ ชนาธิป ตอนนี้

แต่ที่น่าสนใจอีกเรื่อง คือ เมื่อเทียบค่าเงิน งบ ที่ต้องลงทุนซื้อตัวนักเตะไทย ถ้าเทียบกับที่ ญี่ปุ่น ส่งไปเหมือนกันเทียบปอนด์ต่อปอนด์ ถือว่า เขาต้องลงทุนกับเรา สูง และ เสี่ยงกว่ามากแต่ทำไมพวกเขา จึง ยังยอมเสีย

เจลีค การตลาด ชนาธิป

เพราะญี่ปุ่น กับ ไทย เป็นมิตรทางการค้า ท่องเที่ยว การผลิต ที่แน่นแฟ้นและยาวนาน

ไล่กันตั้งแต่ บริษัท รถยนต์ต่างๆ บริษัท ก่อสร้าง สื่อต่างๆ การ์ตูน วิดีโอเกมส์ ถือว่า ประเทสไทยคือแฟนตัวยง ของประเทศ ญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

ว่ากันตามตรง เขาได้เม็ดเงินจากเราไป มหาศาล นานแล้วจาก รุ่นสู่รุ่นั่นรุ่น เอ้าแล้วมันเกี่ยวยังไงกับ ชนาธิป มันก็อาจจะบ่งบอกว่า คุ้มค่าที่จะลงทุนไงครับ ในแง่ของ การ์๖ูนญี่ปุ่น เราจะสังเกตุได้ว่า

เรื่องที่มักจะโด่งดัง จะมี พระเอกอยู่สองแบบ คือ แนวพยายามจนเก่งขึ้นมา กับ มีพรสวรรค์โดดเด่นแต่แรกเริ่ม แต่เราลองมามองดูโมเดล การประกวด นักร้อง สังเกตุไหมครับ ว่า รายการไหน ก็ตาม ที่คัดผู้เข้าแข่งที่ยังต้องการการขัดเกลาเพื่อ สู่ดวงดาวในระดับที่สูงขึ้น หรือถ้ามีการโหวต

ผู้คนมักจะให้กำลังใจ และ ส่งเสริมคนอ่อนน้อม น่ารัก และ น่าเห็นใจ แต่มีแววที่น่าสนับสนุน การ์ตูนที่พระเอกไม่เก่ง แต่มีความพยายาม หรือ พรสวรรค์ที่ต้องเอาไปขัดเกลาก่อน มีมากมาย และ มักจะสนุก เพราะผู้ชมได้มีพัฒนาการ ลุ้นเติบโตไปกับพระเอก ยิ่งถ้าคนนั้น มีคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจ

และ ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ญี่ปุ่นฉลาดพอที่ จะประเมิณว่า คุ้มค่าไหม เพราะสิ่งที่ทีมชาติไทยจะได้ จากการส่งนักเตะไปก็มีมากมาย เขาเองก็ไม่ได้บังคับให้เราซื้อสินค้า ดังนั้นผมถึง มองว่า ญี่ปุ่น แยบยลมาก

ในการลงทุน และ มองการณ์ไกล เขาต้องเล็งเห็น Potential อ่อ อีกประเด็น คือ ระยะหลังๆ ญี่ปุ่น เจลีค ถือว่า พัฒนาจนเรียกได้ว่า เพดานการเติบโตเริ่มตื้อ ทั้งเรื่อง เศรษฐกิจ และ การหดตัวของยุคเฟื่องฟูเช่นกัน บวกกับ ชาติในย่าน อาเซี่ยนกำลังพัฒนา

คนไทย ประเทศไทย จึงมีองค์ประกอบ เหมาะมากที่จะเป็นกลุ่มเป้าหมาย เพราะบ้านเราค่อนข้างยอมรับ ชื่นชม เปิดรับ ชนชาติของเขา ทั้งรู้ตัว และ ไม่รู้ตัว

เจลีค การตลาด ชนาธิป

ชนาธิป เปรียบดั่ง พระเอกในการ์ตูนของคนไทย

ชนาธิป มีบุคลิก อ่อนน้อมถ่อมตน คนไทยเอ็นดูรักใคร่ คนญี่ปุ่นเอง ก็ รับได้ คนญี่ปุ่นชอบคนพยายาม แต่ คนไทยก็ชอบให้กำลังใจ ส่งเริมคนที่ มี สตอรี่ ชีวิตที่ลำบาก ต้องสู้ และ ไต่เต้าได้ด้วยลำแข้งตนเอง จากความ มุมานะ พยายาม 

ทีนี้ลองมองย้อนสมัยเรา เด็กไทย เราดูการ์ตูน ในเรื่อง มานะ พยายาม การฝึกฝน จนวันหนึ่ง มันเบ่งพลังออกมาบรรลุ คุณคิดว่ามีส่วนสอดคล้องกันมากน้อยแค่ไหน

เราอาจเป็นคนขี้เกียจ แต่จริงๆ ทุกคนอยากเป็นคน ขยัน บางทีตัวละครเหล่านี้ คือ ตัวแทน ความอยากจะเป็น หรือ อยากให้คนที่เรารักเป็น ในนัยยะหนึ่ง โดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัว

ลองวิเคราห์กันดูครับ บทความของผม อยากนำเสนอในมุม ให้ผู้อ่าน เห้นมุมมองเพื่อไปตั้งข้อสังเกตุ และ ขยายความต่อด้วยตนเอง เพราะการวิเคราะห์ ย่อมดีกว่าแค่การให้ข้อมูล

ผมต้องบอกด้วยความมั่นใจส่วนตัวว่า ชนาธิป คือ ก้าวแรกใหญ่ๆ เรื่องการตลาด ที่ ได้ทั้ง คนซื้อ คนขาย หรือ แลกเปลี่ยนกัน

แต่ในที่นี้  ผลพลอยได้ขั้นต่อไปที่ยากกว่า คือ การสร้างกระแส ของความต่อเนื่อง ซึ่งข้อมูลก็เห็นอยู๋ ตลอดเวลา ว่า ทางญี่ปุ่นก็ติดต่อประสานงานเชิงรุก ในการหานักเตะไทยไปประเทศเขาตลอดเวลา ยิ่ง ณ ตอนนี้

คุณภาพของนักเตะบ้านเราเริ่มขยับเป็น กราฟ ขาขึ้น นั่นยิ่งทำให้เขา ยิ่งมั่นใจว่า จะมี ชนาธิป 2,ชนาธิป3 ที่จะมีโอกาสเป็นแม่เหล็กให้ การตลาด ของทั้งสองฝ่าย ยังคงจุดไฟติดต่อไป

เจลีค การตลาด ชนาธิป สะท้อนพัฒนาการทางฟุตบอล ของไทยได้เร็ว อย่างน้อยก้เห็นผลในระยะเวลาสั้นๆ

ถ้าเปรียบเทียบ การลงทุนจากฟากญี่ปุ่น คือ ลงทุนระยะยาว ของฝั่งเราก็เปรียบเสมือนได้เงินปันผลระยะสั้นเป็นกำไรมาก่อน 

เพราะว่า ผลที่ได้มา ในระยะเวลาแค่สองสามปีที่ผ่านมา จริงอยู่ คนไทยดู เจลีค มากขึ้นแต่ถ้าเทียบว่าญี่ปุ่นได้อะไรทางฟุตบอลมากกว่าเราไหม ลองมองดูละกันครับ ชนาธิป ธีราทร ธีรศิลป์ ที่ไปมา แกร่งขึ้นแค่ไหน

จะว่าไปบางที การตลาดแบบนี้ อาจจะเป็น ญี่ปุ่นต้องการมอบเงินปันผล จากผลประกอบการณ์ที่ดี มาแบ่งเป็นของขวัญ ตอบแทนลูกค้าชั้นดีของเขาก็ได้นะครับ

 

“เด็กเนิร์ดสีส้ม”